Select Page

ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า (บริษัท-บริษัทย่อย)

(Privacy Notice for Customer)

 

ประกาศ ณ วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2566

 

          บริษัท ละแมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัท”) ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้าของบริษัท ที่ทำสัญญาหรือใช้บริการของบริษัท (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ท่าน”) และเพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใดๆ ที่อาจมีขึ้นในอนาคต (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) บริษัทจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้าของบริษัท (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ประกาศ”) ฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม การใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้

 

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม

          บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินงานของบริษัทตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ และตามขอบเขตและใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งรวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียดข้อมูล
ข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐาน

1.         ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล เช่น  ชื่อ-นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด เพศ สัญชาติ เลขประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หรือข้อมูลยืนยันตัวตนอื่นๆ ที่ทางราชการออกให้ ภาพถ่าย วิดีโอและบันทึกเสียง ภาพหรือบันทึกจากกล้องวงจรปิด (CCTV)[1]

2.         ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล บัญชีสื่อสังคมออนไลน์

3.         ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน เช่น อาชีพ ตำแหน่ง สถานที่ทำงาน

4.         ข้อมูลของผู้รับสิ่งของหรือพัสดุ เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ทั้งนี้ ท่านมีหน้าที่แจ้งให้ผู้รับสิ่งของหรือพัสดุทราบถึงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ด้วย

5.         ข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขที่บัญชีธนาคารและข้อมูลทางธนาคาร ข้อมูลการหักภาษี ณ ที่จ่าย เลขประจำตัวผู้เสียภาษี ที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน เลขที่บัตรเครดิตและบัตรเดบิต ชื่อผู้ถือบัตร และรายละเอียดของบัตร

6.         ข้อมูลการทำธุรกรรม เช่น ข้อมูลตามเอกสารประกอบธุรกรรม เช่น สัญญา ประวัติการซื้อสินค้าหรือบริการ ประวัติการเคลมสินค้า

7.         ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ข้อมูลการสื่อสารทางอีเมล ข้อมูลจากการบันทึกการใช้งาน เช่น ตัวระบุอุปกรณ์ หมายเลข IP address ของคอมพิวเตอร์ ข้อมูลที่บริษัทได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกัน ข้อมูลเบราว์เซอร์และข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับอุปกรณ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น และช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ของบริษัท เช่น ประวัติในการเยี่ยมชม ค้นหา และปฏิสัมพันธ์ของเจ้าของท่านกับเว็บไซต์ของบริษัท[2]

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ไม่มี

          ทั้งนี้ ในกรณีที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่จำเป็นต่อการปฏิบัติตามสัญญา หรือเพื่อเข้าทำสัญญา หรือเพื่อให้บริษัทดำเนินการตามกฎหมาย บริษัทอาจปฏิเสธการดำเนินการใดๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การทeธุรกรรมใดๆ ระหว่างท่านกับบริษัท การซื้อขายสินค้า และ/หรือ บริการ การเรียกรับสินค้า และ/หรือ บริการ การตรวจรับสินค้า และ/หรือ บริการ

 

 

  1. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ และตามฐานในการประมวลผล                   ข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้

วัตถุประสงค์ ฐานในการประมวลผล                   ข้อมูลส่วนบุคคล

1.    เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่กำหนดไว้สัญญาระหว่างท่านกับบริษัท เช่น การจัดหา หรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์ การให้หรือรับบริการในรูปแบบต่างๆ เช่น ดำเนินการจัดส่งและการตรวจรับสินค้า และ/หรือ บริการ หรือการปฏิบัติตามสัญญาใดๆ ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา ซึ่งรวมถึง การชำระเงิน การออกใบแจ้งหนี้ การติดตามทวงหนี้ การบริการหลังการขาย การคืนสินค้า และดำเนินการใดๆ เพื่อให้ท่านได้รับสินค้า และ/หรือ บริการ หรือตามที่ท่านได้ร้องขอ

 

•  การปฏิบัติตามสัญญา

•  ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

 

2.    เพื่อบริหารจัดการการติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับสินค้า และ/หรือ การบริการ การปฏิบัติตามสัญญา การประเมินความพึงพอใจในการใช้บริการของบริษัท รวมถึงการจัดการข้อสงสัย คำขอ หรือข้อร้องเรียนต่างๆ

•  การปฏิบัติตามสัญญา

•  ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

3.    เพื่อปรับปรุงคุณภาพการปฏิบัติงานและการให้บริการของบริษัทให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การทำฐานข้อมูลเพื่อใช้ในการวิจัย หรือจัดทำข้อมูลสถิติ การวิเคราะห์และพัฒนากระบวนการดำเนินงานของบริษัท การพัฒนาประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและบริการ การตรวจสอบและป้องกันการฉ้อโกง หรืออาชญากรรมอื่นๆ การจัดการความสัมพันธ์ลูกค้าและผู้ที่อาจเป็นลูกค้า การบำรุงรักษาและการใช้ระบบเทคโนโลยีและสารสนเทศ

•  ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

•  ความยินยอม

4.    เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาด การสำรวจทางการตลาด การโฆษณาและจัดทำข่าวประชาสัมพันธ์ เพื่อนำเสนอสินค้า และ/หรือ บริการเพิ่มเติม รวมถึงการพัฒนาแผนทางธุรกิจ

•  ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

•  ความยินยอม

5.    เพื่อประโยชน์ด้านความปลอดภัย เช่น การจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยต่างๆ เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและของบุคคลอื่น เช่น การดูแลการเข้าออกสถานที่ของบริษัท การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ •  ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
6.    เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดตามที่ได้แจ้งไว้ต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว •  ความยินยอม

 

          ในกรณีที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งไว้ข้างต้น บริษัทจะดำเนินการแจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้ท่านทราบ และขอความยินยอมจากท่านเป็นหนังสือ หรือด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

 

3.       วิธีเก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทาง ดังต่อไปนี้

  • จากท่านโดยตรง เช่น เมื่อมีการดำเนินการใดๆ เพื่อเข้าทำสัญญาหรือทำสัญญาหรือธุรกรรมใดๆ กับบริษัท เมื่อมีการติดต่อสอบถามข้อมูลกับบริษัท หรือเมื่อมีการโต้ตอบทางอีเมล หรือทางช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ระหว่างท่านกับบริษัท หรือได้รับจากข้อมูลการใช้เว็บไซต์ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ของท่าน เป็นต้น
  • จากบุคคลอื่น ได้แก่ ได้รับจากผู้แนะนำ (Referral) อื่น หรือได้รับจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง หรือได้รับจากบุคคลภายนอกที่ให้บริการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล หรือได้รับจากการยืนยันการชำระเงินของท่านจากผู้ให้บริการชำระเงินภายนอก

 

  1. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

          บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็น เพื่อดำเนินการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ต่อและได้รับความยินยอมจากท่าน โดยบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาตามแต่กรณี ดังต่อไปนี้

  1. ในกรณีที่ท่านไม่ได้ทำหรือไม่มีนิติกรรมหรือธุรกรรมใดๆ กับบริษัท หรือไม่ได้ซื้อขายสินค้าหรือใช้บริการของบริษัท บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลของท่านเป็นระยะเวลา 2 ปี นับจากวันที่ท่านได้ให้ข้อมูลของท่านแก่บริษัท
  2. ในกรณีที่ท่านมีนิติสัมพันธ์หรือทำนิติกรรมกับบริษัท เช่น ซื้อขายสินค้าหรือใช้บริการของบริษัท บริษัทจะเก็บข้อมูลของท่านเป็นระยะเวลา 5 ปี นับจากวันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านในฐานะลูกค้ากับบริษัทสิ้นสุดลง

          อย่างไรก็ตามบริษัทมีสิทธิเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานกว่าระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น หากเป็นไปเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่น

          ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุข้างต้น หรือเมื่อหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะทำการทำลาย ลบ นำออกจากระบบ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้

 

  1. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
    • บริษัทจะใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งและได้รับความยินยอมจากท่าน หรือเป็นไปตามหลักเกณฑ์ หรือได้รับยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
    • บริษัทมีสิทธิเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลอื่น ดังเช่น หน่วยงานและบุคคลต่อไปนี้
      • พนักงาน ลูกจ้าง กรรมการ ผู้จัดการ บุคลากรของบริษัท เฉพาะที่เกี่ยวข้อง และมีบทบาทหน้าที่เท่าที่จำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เท่านั้น
      • พันธมิตร คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ ตัวแทน ผู้รับจ้างหรือผู้รับจ้างช่วง นายหน้าที่ทำงานหรือให้บริการแก่บริษัท รวมถึงผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมอบหมายให้ทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ ให้บริการ หรือบริหารจัดการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ผู้ให้บริการพัฒนาปรับปรุงหรือดูแลรักษามาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยของระบบงานและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการรับชำระเงิน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกันภัย ที่ปรึกษา ผู้ให้บริการทางวิชาชีพ และบุคคลอื่นใดที่จำเป็นเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจและให้บริการแก่ท่าน รวมถึงดำเนินการใดๆ ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้
      • หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย หรือหน่วยงานที่ร้องขอให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย อาทิเช่น การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือการร้องขอที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย เช่น กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ศาล หน่วยงานระงับข้อพิพาท
    • ในกรณีที่มีความจำเป็น บริษัทมีสิทธิส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลอื่นในต่างประเทศ โดยในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลในต่างประเทศดังกล่าวนั้น บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบให้แน่ใจว่า บุคคลดังกล่าวมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด และ/หรือ ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายไทยกำหนด
    • บริษัทมีสิทธิเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้หลักเกณฑ์ตามกฎหมาย คำสั่ง กฎ ข้อบังคับ หรือ คำสั่งศาล เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงในกรณีที่มีความจำเป็นตามสมควรในการปฏิบัติตามสัญญา ตลอดจนการเปิดเผยข้อมูลในกรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมบริษัท หรือการขายกิจการ

 

  1. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิเกี่ยวกับการจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้

  • สิทธิในการได้รับการแจ้งจากบริษัทให้ทราบถึงรายละเอียดในการเก็บรวบรวม ระยะเวลาในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ท่านให้ความยินยอมไว้ โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบจากการเพิกถอนความยินยอมดังกล่าว ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ก่อนหน้าการเพิกถอน
  • สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและขอทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านซึ่งบริษัทเก็บรวบรวมไว้ รวมถึงการขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ได้ให้ความยินยอมไว้
  • สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อบุคคลใด
  • สิทธิในการแจ้งให้บริษัทดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลนั้นไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
  • สิทธิในการระงับบริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ แต่ท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  • สิทธิในการให้บริษัทโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ซึ่งโดยสภาพสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
  • สิทธิในการคัดค้านบริษัทเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย หรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่บริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านสามารถขอใช้สิทธิตามที่ระบุไว้ข้างต้นโดยยื่นคำร้องขอผ่านช่องทางการติดต่อที่ได้ระบุไว้ในข้อ 10. ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธการใช้สิทธิดังกล่าวตามที่ได้ร้องขอ หากเป็นไปตามกฎหมายกำหนด

 

  1. ผลการเพิกถอนความยินยอม

          ท่านรับทราบว่า ท่านมีสิทธิพิจารณาเพิกถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยิมยอมแก่บริษัทไว้ ทั้งนี้ ท่านยอมรับและรับทราบว่า การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการของบริษัทเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ก่อนแล้ว

 

  1. การคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

          บริษัทให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างยิ่ง โดยบริษัทจะจัดให้มีมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่สอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และแนวปฏิบัติด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งมาตรการในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และด้านอื่นๆ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่สูญหาย ถูกทำลายโดยไม่ตั้งใจ ถูกเปิดเผย และนำไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ หรือ เข้าถึงโดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่พนักงานหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

          ในกรณีที่มีข้อมูลรั่วไหล และ/หรือ เหตุการณ์ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งเหตุและแนวทางการเยียวยาตามสมควรให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชักช้านับแต่ทราบเหตุ

 

  1. การทบทวนและเปลี่ยนแปลงประกาศฯ

          บริษัทอาจทำการปรับปรุงหรือแก้ไขประกาศฉบับนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดตามกฎหมาย การเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากหน่วยงานราชการต่างๆ โดยบริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงของประกาศให้ท่านทราบก่อนจะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลงผ่านเว็บไซต์ของบริษัท ( https://www.lamairpalmoil.com/ )

 

  1. ช่องทางการติดต่อ

บริษัท ละแมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน)

ที่อยู่:           17/21 ซอยสุขุมวิท 31 (สวัสดี) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร

โทรศัพท์:      02-1475378

อีเมล:          hr@lamairpalmoil.com

 

ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้าฉบับนี้ ให้มีผลบังคับใช้วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2566

 

 

[1] โปรดดูรายละเอียดการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลจากการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิดใน“ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวในการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิด” ได้ที่ https://www.lamairpalmoil.com/

[2] โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน “นโยบายการใช้คุกกี้” ที่ https://www.lamairpalmoil.com/

en_USEnglish