ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ถือหุ้น (บริษัท-บริษัทย่อย)
(Privacy Notice for Shareholders)
ประกาศ ณ วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2566
บริษัท ละแมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัท”) ให้ความสำคัญกับการคุ้มครอง ความเป็นส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ รวมถึงผู้รับมอบอำนาจหรือผู้รับมอบฉันทะของผู้ถือหุ้นของบริษัท (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ท่าน”) และเพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใดๆ ที่อาจมีขึ้นในอนาคต (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) บริษัทจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ถือหุ้นของบริษัท (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ประกาศ”) ฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินงานของบริษัทตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศ ฉบับนี้ และตามขอบเขตและใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งรวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล |
รายละเอียดข้อมูล |
ข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐาน |
1. ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด เพศ สัญชาติ เลขประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หนังสือตรวจลงตรา (Visa) หรือข้อมูลยืนยันตัวตนอื่นๆ ที่ทางราชการออกให้ ภาพถ่าย วิดีโอและบันทึกเสียง ภาพหรือบันทึกจากกล้องวงจรปิด (CCTV)[1] 2. ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล 3. ข้อมูลอาชีพ เช่น ประสบการณ์และประวัติการทำงาน และบริหารหรือการดำรงตำแหน่งในบริษัทหรือกิจการอื่นๆ 4. ข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขที่บัญชีธนาคารและข้อมูลทางธนาคาร ข้อมูลการหักภาษี ณ ที่จ่าย เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 5. รายละเอียดการถือหุ้น เช่น เลขทะเบียนผู้ถือหุ้น จำนวนหุ้น/หุ้นกู้ การจองหุ้น/หุ้นกู้ การซื้อหุ้น/หุ้นกู้ การจำหน่ายหุ้น สิทธิในการรับเงินปันผล การลงคะแนนเสียง การแต่งตั้งผู้รับมอบฉันทะ คำเสนอซื้อและเสนอขาย เงื่อนไขในการใช้สิทธิ และวันใช้สิทธิ สำเนาข้อซักถามและข้อร้องเรียนของผู้ถือหุ้น และการติดต่ออื่นๆ ระหว่างท่านและบริษัท ในฐานะผู้ถือหุ้น ข้อกำหนด และเงื่อนไขของสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้นกับบริษัท 6. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้รับมอบฉันทะเพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้ถือหุ้น เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด เพศ สัญชาติ เลขประจำตัวประชาชน ทั้งนี้ ท่านมีหน้าที่แจ้งให้ผู้รับมอบฉันทะทราบถึงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ด้วย 7. ข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัว เช่น สถานภาพการสมรส ข้อมูลของสมาชิกในครอบครัว และผู้อยู่ในความอุปการะ รวมถึงการถือหุ้น ประวัติการจ้างงาน และการบริหารหรือการดำรงตำแหน่งในบริษัทหรือกิจการอื่นๆ ของบุคคลดังกล่าว |
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว |
ได้แก่ ข้อมูลสุขภาพ (เช่น โรคประจำตัว ข้อมูลการแพ้อาหาร และ ความพิการ) หมู่โลหิต เชื้อชาติ ศาสนา ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลชีวภาพ |
ทั้งนี้ ในกรณีที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่จำเป็นต่อการปฏิบัติตามสัญญา หรือเพื่อเข้าทำสัญญา หรือเพื่อให้บริษัทดำเนินการตามกฎหมาย บริษัทอาจปฏิเสธการดำเนินการใดๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การทำธุรกรรมใดๆ ระหว่างท่านกับบริษัท เช่น การจ่ายเงินปันผล การชำระหนี้ และ/หรือ ดอกเบี้ยแก่ผู้ถือหุ้นกู้การมอบฉันทะ
- วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ และตามฐานในการประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
วัตถุประสงค์ |
ฐานในการประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคล |
1. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย และเพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของบริษัท เช่น การจัดทำใบหุ้นและสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น การจัดทำรายงานและเอกสารทางทะเบียนของบริษัท การเพิ่มทุน การลดทุน การปรับโครงสร้างกิจการ การทำธุรกรรมต่างๆ ของบริษัท การจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงรายการต่างๆ กับกระทรวงพาณิชย์ การจัดส่งเอกสาร หรือหนังสือต่างๆ เพื่อเปิดเผยและรายงานข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อหน่วยงานที่กฎหมายกำหนด เช่น กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นต้น รวมถึงการปฏิบัติตามคำสั่งของศาลหรือหน่วยงานราชการที่มีอำนาจตามกฎหมาย |
• การปฏิบัติตามกฎหมาย • ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
|
2. เพื่อวัตถุประสงค์ในการเรียกและจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งรวมถึงเพื่อยืนยันตัวตนของท่านเพื่อเข้าร่วมประชุม หรือดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประชุมผู้ถือหุ้น การใช้สิทธิใดๆ ในฐานะผู้ถือหุ้น การลงคะแนนเสียง การแต่งตั้งผู้รับมอบฉันทะ การจัดทำรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท และเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องการการประชุมผู้ถือหุ้น |
• การปฏิบัติตามกฎหมาย • ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย • ความยินยอม |
3. เพื่อติดต่อสื่อสารกับผู้ถือหุ้น เช่น การแจ้งสิทธิแก่ผู้ถือหุ้น การส่งหนังสือบอกกล่าว ประกาศ หรือการจ่ายเงินปันผล |
• ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
4. เพื่อการบันทึกภาพ เสียง และ/หรือ ภาพเคลื่อนไหวระหว่างการประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อประโยชน์ในการเก็บข้อมูลและการเผยแพร่การประชุมผ่านเว็บไซต์ของบริษัท หรือแอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับการประชุมผู้ถือหุ้น หรือเพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับชมในภายหลัง หรือเพื่อการประชาสัมพันธ์เพื่อประโยชน์ของบริษัท หรือเพื่อประโยชน์ของผู้เข้าร่วมประชุม |
• ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
5. เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดตามที่ได้แจ้งไว้ต่อท่านแล้ว |
• ความยินยอม |
ในกรณีที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งไว้ข้างต้น บริษัทจะดำเนินการแจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้ท่านทราบ และขอความยินยอมจากท่านเป็นหนังสือ หรือด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
- วิธีเก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทาง ดังต่อไปนี้
- จากท่านโดยตรง เช่น เมื่อท่านติดต่อทำธุรกรรมใดๆ กับบริษัท เช่น การจองหุ้น การจดทะเบียนเป็นผู้ถือหุ้น หรือจากเอกสารยืนยันตัวตน การติดต่อกับท่านผ่านการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท หรือการเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ของบริษัท หรือได้รับจากข้อมูลการใช้เว็บไซต์ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ของท่าน เป็นต้น
- จากบุคคลอื่น ได้แก่ ข้อมูลจากบุคคลอ้างอิงหรือผู้ให้การรับรอง หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง หรือบุคคลภายนอกที่ให้บริการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล
- ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็น เพื่อดำเนินการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ต่อและได้รับความยินยอมจากท่าน โดยบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาที่ท่านเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ทั้งนี้ ในกรณีที่ท่านพ้นสภาพจากการเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท บริษัทจะเก็บข้อมูลของท่านไว้เป็นระยะเวลา 10 ปี นับจากวันที่สถานะการเป็นผู้ถือหุ้นของท่านสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตามบริษัทมีสิทธิเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานกว่าระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น หากเป็นไปเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่น
- การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- บริษัทจะใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งและได้รับความยินยอมจากท่าน หรือเป็นไปตามหลักเกณฑ์ หรือได้รับยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
- บริษัทมีสิทธิเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลอื่น ดังเช่น หน่วยงานและบุคคลต่อไปนี้
- พนักงาน ลูกจ้าง กรรมการ ผู้จัดการ หรือ บุคลากรของบริษัท เฉพาะที่เกี่ยวข้อง และมีบทบาทหน้าที่เท่าที่จำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์เท่านั้น
- พันธมิตร คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ ลูกค้า ตัวแทน ผู้รับจ้างหรือผู้รับจ้างช่วง ตัวแทนหรือนายหน้าที่ทำงานหรือให้บริการแก่บริษัท รวมถึงผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมอบหมายให้ทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ ให้บริการ หรือบริหารจัดการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ผู้ให้บริการพัฒนาปรับปรุงหรือดูแลรักษามาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยของระบบงานและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการรับชำระเงิน บริษัทหลักทรัพย์ ที่ปรึกษา
ผู้ให้บริการทางวิชาชีพ ผู้ให้บริการด้านการจัดการประชุม - หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย หรือหน่วยงานที่ร้องขอให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลโดยอาศัย
อำนาจตามกฎหมาย อาทิเช่น การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย
หรือการร้องขอที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย เช่น กระทรวงพาณิชย์ กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ศาล หน่วยงานระงับข้อพิพาท
- ในกรณีที่มีความจำเป็น บริษัทมีสิทธิส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลอื่นในต่างประเทศ โดยในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลในต่างประเทศดังกล่าวนั้น บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบให้แน่ใจว่า บุคคลดังกล่าวมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด และ/หรือ ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายไทยกำหนด
- บริษัทมีสิทธิเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้หลักเกณฑ์ตามกฎหมาย คำสั่ง กฎ ข้อบังคับ หรือ คำสั่งศาล เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงในกรณีที่มีความจำเป็นตามสมควรในการปฏิบัติตามสัญญา ตลอดจนการเปิดเผยข้อมูลในกรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมบริษัท หรือการขายกิจการ
- สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิเกี่ยวกับการจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
- สิทธิในการได้รับการแจ้งจากบริษัทให้ทราบถึงรายละเอียดในการเก็บรวบรวม ระยะเวลาในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ท่านให้ความยินยอมไว้ โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบจากการเพิกถอนความยินยอมดังกล่าว ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ก่อนหน้าการเพิกถอน
- สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและขอทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านซึ่งบริษัทเก็บรวบรวมไว้ รวมถึงการขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ได้ให้ความยินยอมไว้
- สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อบุคคลใด
- สิทธิในการแจ้งให้บริษัทดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลนั้นไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
- สิทธิในการระงับบริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ แต่ท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
- สิทธิในการให้บริษัทโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ซึ่งโดยสภาพสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
- สิทธิในการคัดค้านบริษัทเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย หรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่บริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านสามารถขอใช้สิทธิตามที่ระบุไว้ข้างต้นโดยยื่นคำร้องขอผ่านช่องทางการติดต่อที่ได้ระบุไว้ในข้อ 10. ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธการใช้สิทธิดังกล่าวตามที่ได้ร้องขอ หากเป็นไปตามกฎหมายกำหนด
- ผลการเพิกถอนความยินยอม
ท่านรับทราบว่า ท่านมีสิทธิพิจารณาเพิกถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยิมยอมแก่บริษัทไว้ ทั้งนี้ ท่านยอมรับและรับทราบว่า การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการของบริษัทเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ก่อนแล้ว
- การคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างยิ่ง โดยบริษัทจะจัดให้มีมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่สอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และแนวปฏิบัติด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งมาตรการในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และด้านอื่นๆ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่สูญหาย ถูกทำลายโดยไม่ตั้งใจ ถูกเปิดเผย และนำไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ หรือ เข้าถึงโดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่พนักงานหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
ในกรณีที่มีข้อมูลรั่วไหล และ/หรือ เหตุการณ์ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งเหตุและแนวทางการเยียวยาตามสมควรให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชักช้านับแต่ทราบเหตุ
- การทบทวนและเปลี่ยนแปลงประกาศ
บริษัทอาจทำการปรับปรุงหรือแก้ไขประกาศ ฉบับนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดตามกฎหมาย การเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากหน่วยงานราชการต่างๆ โดยบริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงของประกาศ ให้ท่านทราบก่อนจะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลงผ่านเว็บไซต์ของบริษัท ( https://www.lamairpalmoil.com/ )
- ช่องทางการติดต่อ
บริษัท ละแมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน)
ที่อยู่: 17/21 ซอยสุขุมวิท 31 (สวัสดี) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
โทรศัพท์: 02-1475378
อีเมล: hr@lamairpalmoil.com
ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ถือหุ้นฉบับนี้ ให้มีผลบังคับใช้วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2566
[1] โปรดดูรายละเอียดการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลจากการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิดใน “ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวในการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิด” ได้ที่ https://www.lamairpalmoil.com/