เลือกหน้า

                ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวในการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิด                     

 (บริษัท-บริษัทย่อย)

(CCTV Privacy Notice)

ประกาศ ณ วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2566

          บริษัท ละแมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “บริษัท”) ได้ดำเนินการติดตั้งและใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิด (CCTV) ในการบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และ/หรือ เสียง สำหรับการเฝ้าดูแลและรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ภายในอาคารและบริเวณโดยรอบสถานที่ของบริษัท (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “พื้นที่”) เพื่อปกป้องชีวิต สุขภาพ และทรัพย์สินของลูกค้า พนักงาน กรรมการ ผู้รับจ้าง ผู้มาติดต่อ หรือ บุคคลใด ๆ (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมกันว่า “ท่าน”) ที่เข้ามายังบริเวณพื้นที่ที่มีการเฝ้าดูแล โดยบริษัทได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านอุปกรณ์กล้องวงจรปิด (CCTV) ในการนี้ บริษัทจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวในการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิด (“ประกาศ”) ฉบับนี้ขึ้น เพื่อให้ท่านทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งสิทธิต่างๆ ของท่าน ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากอุปกรณ์กล้องวงจรปิด (CCTV) ดังต่อไปนี้

  • ภาพเคลื่อนไหวหรือภาพนิ่งซึ่งสามารถระบุตัวตนของท่านได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนของท่าน เช่น ข้อมูลการจดจำใบหน้าของท่าน บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน เว้นแต่มีกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้
  • เสียงของท่าน
  • ภาพเคลื่อนไหวหรือภาพนิ่งของทรัพย์สินของท่าน อาทิ ยานพาหนะ กระเป๋า หมวก เครื่องแต่งกาย
    เป็นต้น

 

  1. วิธีการที่บริษัทใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

          บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ผ่านการใช้งานอุปกรณ์กล้องวงจรปิด (CCTV) เมื่อท่านเข้าไปในพื้นที่ของบริษัท ซึ่งอุปกรณ์กล้องวงจรปิด (CCTV) ของบริษัททำงานตลอด 24 ชั่วโมง เว้นแต่ ในกรณีที่ระบบขัดข้องหรือมีการซ่อมบำรุงระบบ โดยบริษัทได้ติดป้ายประกาศเพื่อแจ้งท่านเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิด (CCTV) ในทุกจุดที่มีการติดตั้งอุปกรณ์กล้องวงจรปิด (CCTV) ดังกล่าว

          อุปกรณ์กล้องวงจรปิด (CCTV) จะถูกติดตั้งไว้ในบริเวณพื้นที่ที่เป็นจุดสำคัญ เช่น ทางเข้าและทางออก รวมถึงพื้นที่ที่บริษัทเห็นสมควรว่าเป็นจุดที่ต้องมีการเฝ้าระวัง ทั้งนี้ บริษัทจะไม่ติดตั้งอุปกรณ์กล้อง วงจรปิด (CCTV) ในพื้นที่ที่อาจเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของท่านเกินความจำเป็น เช่น ห้องสุขา ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือห้องอาบน้ำ

  1. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ และตามฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้

วัตถุประสงค์

ฐานในการประมวลผล                   ข้อมูลส่วนบุคคล

1.    เพื่อควบคุมดูแลการเข้าออกพื้นที่ของบริษัท และเฝ้าระวังการเข้าออกพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต

•       ความจำเป็นในการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ

•       ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

 

 

 

 

 

 

2.    เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย และป้องกันอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ หรือทรัพย์สินของท่าน หรือบุคคลอื่นใดที่เข้ามาในพื้นที่ของบริษัท

3.    เพื่อดูแลรักษาและป้องกันพื้นที่ สิ่งอำนวยความสะดวก และทรัพย์สินของบริษัทจากความเสียหาย การถูกรบกวน การทำลาย หรืออาชญากรรมอื่นๆ

4.    เพื่อตรวจจับและติดตามประพฤติอันมิชอบ อาชญากรรมหรือการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

5.    เพื่อสนับสนุนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อยับยั้งและป้องกันการกระทำใดๆ ที่ผิดกฎหมาย รวมถึงเป็นหลักฐานในกรณีเกิดเหตุอาชญากรรม หรืออุบัติเหตุ และดำเนินคดีทางกฎหมาย

•       ความจำเป็นในการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ

•       ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

•       การปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

6.    เพื่อป้องกันและระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นหรืออาจเกิดขึ้นภายในพื้นที่ของบริษัท

7.    เพื่อสนับสนุนในการก่อตั้งสิทธิหรือยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในการดำเนินคดีทางแพ่งและทางอาญา ซึ่งรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการดำเนินการคดีแรงงาน

8.    เพื่อยืนยันตัวบุคคลและเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ

 

 

  1. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

          บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เก็บรวบรวมผ่านอุปกรณ์กล้องวงจรปิด (CCTV) ไว้เป็นความลับ และ
จะไม่ทำการเปิดเผยต่อบุคคลอื่น เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการหรือกระทำการใดๆ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ได้ระบุในประกาศฉบับนี้ และบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวของท่านต่อบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ดังต่อไปนี้

  • พนักงาน ลูกจ้าง กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคลากรของบริษัท เฉพาะที่เกี่ยวข้อง และมีบทบาทหน้าที่เท่าที่จำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์เท่านั้น
  • หน่วยงานราชการที่บังคับใช้กฎหมาย หรือหน่วยงานที่ร้องขอให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย
  • ผู้ให้บริการภายนอก เช่น ผู้ให้บริการด้านระบบรักษาความปลอดภัย หรือผู้ให้บริการระบบอุปกรณ์กล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อดำเนินการตามความจำเป็นเพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ รวมทั้งทรัพย์สินของท่านหรือบุคคลอื่น

 

  1. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

          บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่บริษัทได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรืออาจนานกว่า 10 ปี ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ในประกาศฉบับนี้ เช่น บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้จนกว่าจะสิ้นสุดการดำเนินการตามกฎหมาย หรือตามระยะเวลาที่บริษัทได้รับอนุญาตให้สามารถเก็บรักษาได้ตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อพ้นระยะเวลา 10 ปี ดังกล่าวหรือเมื่อหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือเมื่อพ้นระยะเวลาที่กฎหมายอนุญาต บริษัทจะทำการทำลาย ลบ นำออกจากระบบ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้

 

  1. สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ท่านอาจใช้สิทธิดังต่อไปนี้เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  • สิทธิในการได้รับการแจ้งจากบริษัทให้ทราบถึงรายละเอียดในการเก็บรวบรวม ระยะเวลาในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและขอทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน
  • สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้อง
    เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อบุคคลใด
  • สิทธิในการแจ้งให้บริษัทดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลนั้น
    ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
  • สิทธิในขอให้บริษัทระงับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิในการให้บริษัทโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ซึ่งโดยสภาพสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
  • สิทธิในการคัดค้าน การเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย หรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่บริษัท พนักงานของบริษัท หรือผู้รับจ้างของบริษัท ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านสามารถขอใช้สิทธิตามที่ระบุไว้ข้างต้นโดยยื่นคำร้องขอผ่านช่องทางการติดต่อที่ได้ระบุไว้ในข้อ 9. ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธการใช้สิทธิดังกล่าวตามที่ได้ร้องขอ ตามกฎหมายกำหนด

 

  1. มาตรฐานในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล

          บริษัทจัดให้มีระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งมาตรการทางเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ลบ ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต

          ทั้งนี้ บริษัทกำหนดให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งบริษัทได้เก็บรวบรวมผ่านอุปกรณ์กล้องวงจรปิด (CCTV) เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัทจะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด

 

  1. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

          บริษัทอาจมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขประกาศฉบับนี้ ตามที่บริษัทเห็นสมควร หรือตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านเว็บไซต์ของบริษัท (https://www.lamairpalmoil.com/ ) หรือผ่านประกาศที่ติดไว้ในจุดที่ติดตั้งอุปกรณ์กล้องวงจรปิด (CCTV)

 

  1. ช่องทางการติดต่อ

บริษัท ละแมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน)

ที่อยู่:           17/21 ซอยสุขุมวิท 31 (สวัสดี) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร

โทรศัพท์:      02-1475378

อีเมล:          hr@lamairpalmoil.com

 

           ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวในการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิดฉบับนี้ ให้มีผลบังคับใช้วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2566

 

thThai